ธุรกิจเครือข่าย กับ ระบบการตลาดแบบดึงดูด
ช่วงนี้ที่ผมหายไปไม่ได้เป็นเพราะผมจะเลิกเขียนบทความลงบล็อกนะครับ แต่เนื่องจากโรคร้ายของผมกำเริบ อย่างที่ได้เล่าไปเมื่อ บทความก่อน จนในที่สุดต้องให้ยาเคมีบำบัดอีกครั้ง ในรอบ 2 ปีำ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมนัก
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว ตอนที่ผมได้เริ่มต้นทำ ธุรกิจเครือข่ายด้วย ระบบการตลาดแบบดึงดูด (Attraction Marketing)...ผมรู้สึกตื่นเต้น และทึ่งไปกับ "วิธีการ" ทำธุรกิจเครือข่าย ด้วยการใช้พลังแห่งอินเตอร์เน็ต ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบการตลาดแบบดึงดูดนั้น ประสบความสำเร็จให้เห็นในสหรัฐอเมริกาได้จริง แต่ทว่า ในเมืองไทย ผู้ที่ใช้ระบบนี้จน "ประสบความสำเร็จ" ได้จริงนั้น ยังไม่พบแม้แต่คนเดียว!
นิยามคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ที่ผมเล่าไป หมายถึง คนที่ใช้ ระบบการตลาดแบบดึงดูด แล้วมีรายได้ 6-7 หลัก อย่างต่อเนื่อง เกิน 6 เดือน แล้วตอนนี้ยังทำธุรกิจเครือข่ายกับ บริษัทนั้นๆ อยู่น่ะนะครับ
ระบบการตลาดแบบดึงดูด ทำให้เราสามารถสมัครคนบนโลกออนไลน์ได้ และสามารถสร้างรายชื่อที่มีคุณภาพอย่างไม่จำกัดได้ แต่ทว่า นี่ก็ไม่ใช่ สูตรสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย และเป็นแค่ "พื้นฐาน" เท่านั้น หากท่านต้องการที่จะทำ "ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์" ให้สำเร็จ
สาเหตุอย่างหนึ่งที่เรายังไม่พบเจอคนที่ประสบความสำเร็จ ด้วยระบบนี้อาจเป็นเพราะว่า เมืองไทยของเรา มี "ค่านิยมและวัฒนธรรม" ที่แตกต่างจากทางฝั่งอเมริการอยู่บ้างพอสมควร ดังนั้น การที่เรานำ "วิธีการ" ของฝรั่งมาแบบทั้งดุ้นเลยอาจทำให้ผลลัพท์ความสำเร็จยังคงเลือนลาง
สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงก็คือ...การทำธุรกิจเครือข่าย ด้วยระบบการตลาดแบบดึงดูด เป็นการเดินมาถูกทาง! ส่วนการเดินทางที่ผิดนั้น ผมเคยเขียนไปแล้ว ในบทความเรื่อง "เผยด้านมืด วงการธุรกิจเครือข่ายออนไลน์" ทุกท่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้
มีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์บางท่าน สอนว่า "ให้ทำออนไลน์ 100%" ซึ่งผมยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะอย่างที่บอกว่า "ค่านิยมและวัฒนธรรม" ของเรายังไม่เหมือนกับต่างชาติไปเสียหมด
การทำธุรกิจเครือข่าย นั้นไม่มีสูตรสำเร็จ หรือ "วิธีการ" ที่ตายตัว ไม่ว่าเราจะทำในรูปแบบ "ออนไลน์" หรือ "ออฟไลน์"
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมเคยพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน กับคนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านออนไลน์เลย แต่ก็ประสบความสำเร็จสร้างรายได้ระดับ 6 หลัก เกือบ 7 หลัก ต่อเนื่อง เกิน 6 เดือน มาแล้ว (ผมเห็นจากใบเช็ค ที่เค้านำมาโชว์ให้ดู) ...ซึ่ีง "วิธีการทำงาน" ของเค้าก็คือ การออกไปพบปะ ผู้คนทุกๆ วัน มุ่งมั่นทำงาน อดทน ไม่แยแสกับคำปฏิเสธ และทำมาตลอดต่อเนื่องมากกว่า 6 ปี ก่อนที่จะมีรายได้ระดับนี้
ผมสังเกตผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในการทำงานแบบ "ออฟไลน์" ท่านนี้ ก็คือ "ความอดทนมุ่งมั่นและความเพียรพยายาม" ซึ่งสิ่งนี้ัคือ พื้นฐานแห่งความสำเร็จ ไม่ว่าจะทำธุรกิจเครือข่ายด้วยวิธีการแบบใดก็ตาม
บางครั้ง เราต้องกลับมาถามตนเองว่า เราใส่ใจกับ "วิธีการ" มากจนเกินไปไหม ?
สิ่งที่เราควรจะใส่ใจให้มากๆ นั้นความจะเป็นเรื่อง "วิธีคิด" ใช่หรือไม่ ?
เมื่อมี "วิธีคิด" ที่ถูกต้อง จากการอ่้านหนังสือพัฒนาตนเองต่อเนื่อง เราก็ควร "ลงมือทำ" ซะที ! เพราะในหลายๆ ครั้งเราก็มักจะ ฆ่าโอกาสแห่งความสำเร็จ ให้ล่าช้าออกไปด้วยคำว่า "เดี๋ยวก่อน" "พรุ่งนี้ก็ได้" "รออีกนิด"...ซึ่งความสำเร็จ คงไม่มาถึงแน่ หากมี "วิธีคิด" เช่นนี้
เมื่อมี "วิธีคิด" ที่ถูกต้อง จากการอ่้านหนังสือพัฒนาตนเองต่อเนื่อง เราก็ควร "ลงมือทำ" ซะที ! เพราะในหลายๆ ครั้งเราก็มักจะ ฆ่าโอกาสแห่งความสำเร็จ ให้ล่าช้าออกไปด้วยคำว่า "เดี๋ยวก่อน" "พรุ่งนี้ก็ได้" "รออีกนิด"...ซึ่งความสำเร็จ คงไม่มาถึงแน่ หากมี "วิธีคิด" เช่นนี้
หลักการทำธุรกิจเครือข่าย และบริหารองค์กร ของผมในวันนี้ยังคงยึดถือ หลักการทำงานบนโลกออนไลน์ 80% และออฟไลน์ 20% ผมและทีมงาน จะประชุมกันผ่าน Google+ Hang out 1-2 สัปดาห์ ต่อ 1ครั้ง เพื่อสอน วิธีการทำการตลาดออนไลน์ ประชุม เพื่อพบหน้ากัน สร้างสัมพันธ์ และพูดถึงวิสัยทัศน์ของทีมร่วมกัน
ก่อนจบ ผมขอนำบทความตอนหนึ่งที่ผมชอบและสอดคล้องกับเนื้อหาในวันนี้ จากหนังสือ "มองมุมกลับ ลับคมความคิด" มาปิดท้าย
"...ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เส้นทางสู่พระนิพพาน ไม่ได้มีสายเดียว การรู้แจ้งเปรียบได้กับบ้านที่มีประตูอยู่ถึง 6,000 ล้านบาน และในขณะที่ยังมีชีวิต เราก็ตั้งใจตามหาประตูบานนั้น ไม่ใช่ประตูบานไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นประตูของเราเอง ประตูที่ไม่เหมือนใคร...
...และเราก็พร้อมจะยอมทุกอย่างเพื่อหามันให้พบ เราพร้อมที่จะยอมสละทรัพย์สิน เงินทอง เวลา อำนาจ เซ็กซ์ สถานภาพทางสังคม ความแน่นอน และความสะดวกสบายเพื่อสิทธิพิเศษนี้...
...และรู้ไหมว่ามันเป็นประตูที่วิเศษมากเสียด้วย มันจะเติมเต็มชีวิตของเราและเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่น มันไม่ได้มีประโยชน์ต่อเราเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อทุกชีวิตที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเราด้วย..."
ความคิดเห็น