ผมเอาชนะมะเร็งได้อย่างไร ???

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ฟังข่าวหนึ่งว่ามีผู้หญิงวัยรุ่นอายุ 24 ปี คนหนึ่งกระโดดจากชั้น 3 ของรถไฟฟ้าสนามเป้าตกลงมาเสียชีวิต !! ซึ่งมาทราบอีกที ว่าสาเหตุมาจากการที่เธอรู้ว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย และกำลังอยู่ในช่วงให้เคโม

Photobucket

พี่ของเธอให้การว่าเธอบ่นเจ็บปวดจากการโดนเคโม จนมีอาการซึมเศร้า ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเธอเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส

แรงบันดาลใจจากข่าวนี้ทำให้ผมอยากจะเขียนเรื่องราวมะเร็งที่เกิดขึ้นกับผมต่อไป...

ช่วงที่ผมเป็นมะเร็งครั้งที่สอง ในช่วงแรกๆหลังจากเจ็บปวดมากว่า 2 เดือน ผมได้ไปเอกซเรย์ และหมอท่านนึงได้ดูฟิล์มของผม หลังจากนั้นก็ได้บอกกับญาติๆ ผมว่า "ผมอยู่ได้อีกประมาณ 3 เดือน !!"

แต่หลังจากวันนั้นที่หมอท่านนั้นบอก นี่ก็เป็นเวลา 7 เดือนผ่านมาแล้ว ตอนนี้ผมอยากกลับไปหาหมอท่านนั้นและบอกกับเค้าจริงๆว่า "ขอโทษครับ ผมยังไม่ตาย และก็ขอบคุณที่อวยพรให้ผม"

ผมไม่ได้โกรธหรือแค้นคุณหมอท่านนั้นหรอกครับ คุณหมอท่านนั้นอาจตัดสินจากประสบการณ์ ตัดสินจากการวินิจฉัยของตนเอง...แต่ผมนึกขอบคุณตัวเอง ที่เป็นคนไม่เชื่อคนอื่นง่ายๆ

ในช่วงที่ผมเป็นมะเร็งและให้เคโมอยู่ มีผู้คนมากมายต่างแนะนำวิธีการรักษา จนกระั่ทั่งแนะนำหมอเทวดาหลายคน และบอกว่าเป็นเหมือนผู้วิเศษ รักษามะเร็งหายได้ทุกระยะ...ซึ่งผมก็ขอบคุณและรับฟังอย่างเต็มใจในความหวังดีของเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปรักษาที่ไหนแต่อย่างใด

นอกจากไปพบอาจารย์ สาทิส อินทรกำแหง กูรูชีวจิตของเมืองไทย เพราะผมอ่านหนังสือที่ท่านเขียนอยู่บ่อยๆ ทั้งพ็อคเก็ตบุ๊คและนิตยสารชีวจิต จึงเกิดความเชื่อมั่น

หลังจากที่ท่านได้ตรวจดูฟิล์มและกดช่องท้องผม แล้วท่านก็บอกว่า "รักษาด้วยชีวจิตอย่างเดียวไม่ทัน ต้องทำควบคู่กันไป" (นั่นหมายถึง ต้องให้เคโมด้วย) ...ผมยังคิดในใจว่า อุตส่าห์มาหาหวังพึ่งชีวจิตอย่างเดียว แต่ไหงกลับต้องโดนเคโมอยู่ดี - -"

แต่ผมก็เลือกที่จะเชื่อท่าน และก็ขอบคุณที่ให้คำแนะนำ เพราะรู้สึกว่าตนเองตอนนั้นปวดหลังมากเกินกว่าที่จะใช้การปรับพฤติกรรมแนวชีวจิตเพียงอย่างเดียว และยาแก้ปวดก็เกินจะระงับความปวดได้แล้ว

ผมกินยาแก้ปวดมากซะจนเป็นแผลในกระเพาะอีก ช่วงนั้นผมเลยปวดทั้งท้อง ปวดทั้งหลัง ...ไปพบหมอ อีกรพ.นึงในจังหวัดชลบุรี เค้ายังถามอยู่ "เธอปวดตรงไหนกันแน่ ???"

"ก็ปวดหลังมากๆแหล่ะครับ เป็นๆหายๆมากว่า 2 เดือน แต่ตอนนี้ปวดท้องด้วยแล้ว...ขอยาฉีดแก้ปวดชนิดรุนแรงให้ผมก่อนได้ไหมครับ ...โอยย ปวดมากเลยครับหมอ ทั้งท้องทั้งหลังเลยตอนนี้"

นั่นคือเสียงร้องครวญครางของผม หลังจากที่หมอดูฟิล์ม ก็สรุปเลยคือ ต้องให้เคโมทันที !!

Photobucket

เมื่อปี 2007 ผมได้เคยเป็นมะเร็งมาแล้วครั้งนึง คือเป็นมะเร็งอัณฑะเหมือนกับ แลนซ์ อาร์มสตรอง นักปั่นจักรยานแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ และผมก็ได้ผ่าตัดอัณฑะออกไป จนคิดว่าตนเองหายสนิทแล้ว

แต่แล้ว ปี 2010 มันก็กลับมาอีกในระยะแพร่กระจาย ผมได้ยินจากหมอไม่ค่อยถนัดนัก ว่าระยะไหน แต่หมอบอกว่า "ขึ้นยุ่บยั่บ เต็มช่องท้อง ลามเข้าตับ เข้าหลอดเลือด" สรุปคือ ลามจากอัณฑะ และแพร่จากต่อมน้ำเหลืองอย่างรวดเร็วไปอวัยวะอื่นๆ

นี่คือผลจากการใช้ชีวิตอย่างประมาท ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา...ปี 2007 ผ่าตัด เอาอัณฑะออก ไม่รู้สึกเจ็บอะไร ยังไม่โดนเคโม ยังไม่รู้สำนึก ...ปี 2010 มะเร็งแพร่กระจาย โดนเคโม เจ็บปวด เข็ดขยาด และนึกสมน้ำหน้าตัวเอง ที่ใช้ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยดูแลสุขภาพให้ดีเลย

จากการผ่าตัด ปี 2007 สิ่งที่ผมปรับตัวเพิ่มขึ้นมีอยู่อย่างเดียวคือ "กินอาหารเสริมและสมุนไพรแคปซูล" ส่วนการใช้ชีวิตอื่นๆยังเหมือนเดิม และแน่นอน "น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ"

การใช้ชีวิตอย่างเลวร้าย นอนดึก ไม่ดูแลสุขภาพ สังสรรค์ ปาตี้ ทำให้ ปี 2010 ต้องมาพบกับมะเร็งอีกครั้งหนึ่ง

...อาหารเสริมดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ประเด็นนี้ผมไม่เคยสงสัย เพราะศึกษามากว่า 4 ปี อ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารเสริม วิตามิน สมุนไพรเกินหลายสิบเล่ม จนบ้านเต็มไปด้วยหนังสือ

ผมค้นข้อมูล ดูฐานข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ทั้งไทยทั้งเทศ ผมเป็นคนที่ไม่เ่ก่งภาษาอังกฤษ แต่ยุคนี้ผมไม่กลัวว่าจะเป็นภาษาอะไร ไม่ว่าจะเป็นภาษาสเปน อิตาลี จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮินดูหรือว่าภาษาจูจุ๊ (ภาษาสุดท้ายนี่ไม่มีนะครับ ^_^) ผมก็ไม่เคยหวั่น ...ถ้าหากผมยังมี Google Translate


... เนื่องจากผมอยู่ในธุรกิจเครือข่ายที่มีอาหารเสริมเป็นสินค้าหลักจึงได้ศึกษา อบรมเรียนรู้อยู่ตลอด ซึ่งได้พบกรณีศึกษามากมายจากคนที่ทำธุรกิจ แต่ผมก็ไม่เชื่อ ...ก็แน่ล่ะ คนทำธุรกิจ เค้าก็ต้องบอกว่าดีสิ อาหารเสริมของบริษัทคุณ !!

เมื่อไม่เชื่อจึงต้องศึกษา เมื่อค้นหาแล้วจึงค้นพบ...หลังจากทดลองกับตนเอง ทดลองกับผู้ป่วยที่มาร้านยา เมื่อทดลองแล้วส่วนใหญ่ผู้ป่วยสุขภาพดีขึ้น และกลับมาซื้อต่อเนื่อง พอหลายกรณีศึกษาเข้า ...จนเกิดเป็นผลึกแห่งความคิด ว่าอาหารเสริมนั้นดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

แต่....ต้องเลือกแบรนด์ และชนิดให้เหมาะสมในแต่ละคน รวมถึงปริมาณการใช้ต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ

งานวิจัยในด้านอาหารเสริมและวิตามิน มีด้านลบไหม ที่เป็นอันตรายและไม่ดีต่อสุขภาพ ???

.... มีครับ !! แต่เป็นส่วนน้อยมาก และต้องใช้ปริมาณมากเกินไปจริงๆ จึงจะเกิดอันตราย...หากเปรียบเทียบคุณอาจพบ 100 งานวิจัยที่เป็นด้านดี ส่วนด้านไม่ดี คุณอาจพบ 5 งานวิจัย แล้วคุณจะเลือกที่จะเชื่อด้านไหน เชื่อใคร เชื่อจากอะไร คุณก็ตัดสินใจเอาเองครับ


เหมือนดังที่ โรเจอร์ เบคอน ได้บอกไว้ว่า "แม้การใช้เหตุผลจะนำไปสู่บทสรุปได้ แต่ก็มิได้ทำให้เหตุผลนั้นเป็นจริงเสมอไป ...หากปราศจากจิตใจที่ค้นพบโดยประสบการณ์"


สุดท้ายแล้วขอให้คุณเชื่อตัวเอง เชื่อในข้อมูลของตนเอง การฟัง การอ่านจากผู้อื่นนั่นเป็นแค่ทางเลือกอีกทางหนึ่งของคุณ ...ขอให้รับผิดชอบกับชีวิตของคุณเต็ม 100 % รวมถึงการเลิกโทษฟ้า โทษฝน โทษโชคชะตา โทษคนอื่น และสิ่งต่างๆซักที

คุณอาจจะเคยได้ยินคนที่มีทัศนคติลบในด้านอาหารเสริมพูดว่า "กินไปทำไม อาหารเสริมน่ะไม่มีประโยชน์หรอก เปลืองเงินเปล่าๆ" หรือทำนองว่า "กินแค่อาหารให้ครบ 5 หมู่ กินผักผลไ้ม้เยอะๆ ออกกำลังกาย แล้วอย่าไปเครียด แค่นั้นก็พอแล้ว"

กับคำพูดนี้...ผมเองเคยเชื่อแบบนั้น เพราะสมัยเด็กๆก็เคยได้ยินหมอพูดบ่อยๆ 


หากแต่เรา... อยู่ในยุคเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ที่มลพิษ มลภาวะ สารเคมี สารพิษ อาหารแปรรูปยังไม่เยอะขนาดนี้ ได้กินผักผลไม้ที่ปลอดสารพิษ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกวัน


หากแต่เรา... ไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ค้นหาข้อมูล หรือมีหนังสือเกี่ยวกับโรคนี้ มากพอ เราก็มิอาจจะรู้ว่าจะหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้จากที่ไหน

ผมก็จะยอมรับความเชื่อที่เราเคยเชื่อกันมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลย

ดังนั้น "ผมเอาชนะมะเร็งได้อย่างไร ???" สิ่งแรกคือ...."เน้นไปที่การศึกษาหาความรู้"


อ่านหนังสือเกี่ยวกับมะเร็งให้มากที่สุด (หรือคนรอบข้างอ่านให้ฟัง หากผู้ป่วยอ่านไม่ไหว) ค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หนังสือเกี่ยวกับอาหารเสริม การกิน การอยู่ การโภชนาการ สารเคมี สารพิษในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง 

วิธีการเอาชนะมะเร็งมีหลายวิธี อยู่ที่คุณจะ เลือกทำวิธีไหน ที่เหมาะกับคุณเอง

ผมมีเรื่องเล่าและข้อมูลอีกมากมาย แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ตอนต่อไปนะครับ (รู้สึกบทความนี้ยาวเกินไปหน่อย)

หากผมหมดเรื่องเล่า หรือไม่ได้ส่งอีเมล์ให้ทุกท่าน นั่นหมายความว่า วิธีการที่ผมใช้อยู่ไม่ได้ผล ...ซึ่งผมขอรับผิดชอบด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ
--------------------------------------------------------

"เพื่อนที่ดีที่สุดของผม เอาหนังสือมาให้ เมื่อผมนอนป่วยอยู่จากการให้เคโม"

ภก.กิตติชาญ ภคภาพรวงศ์ (ซัน)
ผู้นำธุรกิจเครือข่ายสีขาว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รวม 26 คำคม เพจ "คำคมผู้นำ ถ้อยคำแห่งปราชญ์" ที่คนแชร์มากที่สุดเดือน สิงหาคม - ตุลาคม

ปรัชญาในการดำเนินชีวิตของผม

รวม "คำคมผู้นำ ถ้อยคำแห่งปราชญ์" เรื่อง "ความซื่อสัตย์"

แผนการตลาดในธุรกิจเครือข่าย

วิธีหยุดนิสัย...ซุบซิบนินทาของคนอื่นในทันที !!