บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2010

ธุรกิจทั่วไป VS ธุรกิจเครือข่าย

รูปภาพ
นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่จะบอกเราได้ว่า ทำไมต้องเป็นธุริจเครือข่าย ? บางทีอาจมีเหตุผล 108 ประการ ถึงข้อดีในธุรกิจนี้... แต่คนที่เข้ามาทำส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวนั้นมักจะยอมแพ้ไปซะก่อนที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อเราเปรียบเทียบธุรกิจเครือข่ายกับธุรกิจทั่วไปแล้วเราจะเห็นข้อแตกต่างที่เด่นชัดขึ้น ...ผมเคยศึกษาธุรกิจที่มี "ระบบการทำงาน" ต่างๆ โดยเน้นไปธุรกิจประเภท "แฟรนไชส์" ...ปรากฏว่าส่วนใหญ่ล้วนต้องใช้เงินลงทุนที่สูง และกว่าจะเก็บเงินได้มากถึง 6-7 หลักขึ้นไปเพื่อใช้ในการลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งผมอาจจะแก่ไปซะก่อนที่จะได้ทำธุรกิจ ดังนั้นการเข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย จึงเปรียบเสมือนทางลัด โดยอาจใช้เวลา 3-5 ปีในการสร้างรายได้ 6-7 หลักต่อเดือน เพื่อที่จะสร้างธุรกิจของตนเองและช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นในอนาคต ข้อเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจทั่วไปกับธุรกิจเครือข่าย  ธุรกิจทั่วไป ข้อเปรียบเทียบ ธุรกิจเครือข่าย สูง เงินลงทุน ต่ำ สูง ความเสี่ยง ต่ำ จำเป็นมาก

ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจเครือข่าย

รูปภาพ
"ธุรกิจเครือข่าย" หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่า "ขายตรง" เป็นธุรกิจที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของผู้คนมาแล้วมากมายทั่วโลก... จากศึกษาทั้ง ประสบการณ์ตรงที่ได้พบปะ พูดคุยกับผู้คนในธุรกิจเครือข่าย จนถึงอ่านหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ตในแวดวงธุรกิจเครือข่ายทำให้ผมได้มีความเข้าใจในธุรกิจนี้อย่างถ่องแท้  ...ผมจึงได้รวบรวบและเขียนบทความเพื่อให้ความเข้าใจแก่ผู้คนทั่วไปที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง  โดยบทความต่อไปนี้ เหมาะสำหรับ... ...ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพที่ดี ...ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นจากใจจริง ...ผู้ที่ต้องการทำงานจากที่บ้านผ่านอินเตอร์เน็ต ...ผู้ที่เบื่องานประจำ อยากมีเวลาให้กับครอบครัว   ...ผู้ที่ต้องการรายได้เสริม จนถึงทำเป็นรายได้หลัก ...ผู้ที่ต้องการอิสรภาพ ทั้งทางด้านการเงินและเวลา ...ผู้ที่ต้องการรายได้ที่ขึ้นตามความสามารถของตนเอง  ...ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำ ...ผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเอง และดึงศักยภาพที่มีอยู่ของตนเองออกมา ...ผู้ที่ต้องการท

วิธีหยุดคำพูดที่ก้าวร้าวรุนแรงในทันที

รูปภาพ
ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนต่างต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่น เราต่างหนีความจริงที่ว่า "มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" นั้นไม่ได้  ...ดังนั้น จิตวิทยาการใช้ชีวิตในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะต้องเรียนรู้และพัฒนากันอยู่ตลอด ...วันนี้ผมได้พบบทความหนึ่งที่น่าสนใจด้านจิตวิทยา ในเรื่องของ การจัดการกับคนที่ชอบพูดจาก้าวร้าว หรือพูดมากพร่ำบ่นกับเรา แล้วมาเขียนสรุปให้สั้นๆ เพื่อให้เพื่อนๆได้ศึกษากันนะครับ ...เมื่อมีใครสักคนพูดจาหยาบคายกับเราหรือพูดมากพร่ำ่บ่นกับเรา เรามักจะโต้ตอบไปตามอารมณ์ทันที เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง เช่น "อย่ามาพูดกับฉันอย่างนี้นะ !!" "ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ พูดอยู่นั่นแหล่ะ" "พูดอะไรซ้ำๆอยู่ได้ น่าเบื่อ น่ารำคาญ !!" ฯลฯ การรู้สึกโกรธเท่ากับเป็นการปล่อยให้ผู้อื่นมาควบคุมสภาวะอารมณ์ของเรา และสิ่งนี้เอง... ที่จะยิ่งทำให้คนเหล่านั้นยิ่งมีความรู้สึกว่า... ตนเองมีอำนาจเหนือเรา เราต่างไม่ทันสังเกตว่า การกระทำของเรานั่นเอง ที่ทำให้... คนกลุ่มนี้ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น คิดจะควบคุมเราไปซะทุกอย่าง หากเราสามารถหักห้ามความโกรธและไม

วิธีหยุดนิสัย...ซุบซิบนินทาของคนอื่นในทันที !!

รูปภาพ
การพูดถึงผู้อื่นมีหลายระดับ ตั้งแต่การวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นไปจนถึงการนินทา กล่าวหา ว่าร้าย...ตามระดับเนืื้อหาที่ค่อยๆรุนแรงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว คนเรามักจะจำคำพูดที่ถูกนินทาว่าร้ายได้ไม่มีวันลืม และคนที่ถูกนินทาก็จะตอบโต้กลับด้วยคำนินทาที่รุนแรงกว่าเดิม...ซึ่งเปรียบเสมือนกับบูมเมอแรง ที่มักจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในที่สุด ในขณะที่ในปัจจุบัน ไม่ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ต่างก็มีเนื้อหาในทางกล่าวหา ว่าร้าย นินทาอยู่เต็มไปหมด ทำให้สภาพสังคมทุกวันนี้ หลีกหนีจากคำนินทาไม่มีทางพ้น...ซึ่งเป็นมารยาทที่น่าเป็นห่วงของสังคมยุคนี้จริงๆ ผมเป็นคนนึงที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอยู่ด้วยเหมือนกัน และเมื่อมองย้อนกลับมาแล้วจึงรู้สึกเสียใจในคำพูดของตนเองที่ได้พูดเช่นนั้นออกไป การฝึกตัวเองเพื่อไม่ให้กล่าววิพากษ์วิจารณ์จนถึงนินทาผู้อื่น ล้วนต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ...เพราะในบางครั้งอารมณ์ความสนุกของเรามักจะทำให้พูดวิจารณ์ถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาด้วย...ซึ่งเป็นการไม่ยุติธรรมเลยกับบุคคลที่ถูกกล่าวถึงและที่สำคัญหากมีเพื่อนที่ฟังอยู่หลายคนเค้าก็รู้สึกว่า เราเป็นคนที่ไ

ธุรกิจเครือข่าย...แท้จริงแล้ว ต้องขายของจริงหรือ ???

รูปภาพ
คุณเคยคิดไหมครับว่า วิธีการทำงานยุคเก่า แบบ "show the plan share the product" เป็นสิ่งที่เราต้อง ฝืนใจทำทุกครั้งเมื่อนำโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ...ผลิตภัณฑ์ที่สุดยอด แผนการตลาดที่ดีโครตๆ ไปเสนอกับผู้มุ่งหวังแต่ละครั้ง แล้วก็พบกับ "คำปฏิเสธ" ให้มากที่สุด !! ผมคิดในใจตัวเองตอนนั้นว่านี่คือวิธีการทำงานเพื่อความสำเร็จแบบยั่งยืนแน่หรือ ??? ...ความสำเร็จน่ะผมต้องการ แต่การให้พบคำปฏิเสธบ่อยๆแบบนั้นผมสงสารหัวใจตัวเองเหลือเกิน อารมณ์เครียดทำให้หลอดเลือดหัวใจของผมหดตัว หายใจไม่เป็นปกติ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆหัวใจของผมคงอ่อนแอจนเกินจะรับไหว (ว่าเข้าไปนั่น -.-) วิธีการทำงานแบบยุคเก่า ที่กล่าวมาข้างต้น พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวเกินกว่า 95-99 % !! ...และเราก็ยังทำต่อไปด้วยวิธีแบบเดิมๆ เพราะเมื่อเข้าศูนย์อบรมบริษัท เราก็จะโดนปลุกใจโดยทีมผู้นำกันใหม่อีกครั้ง แล้วเหตุแห่งความล้มเหลวนั้น มีสิ่งใดล่ะที่มันพลาดไป... เรามักจะถูกสอนให้ "show the plan share the product" และก็อ้างเคลมว่าบริษัทนี้เป็น "The next big thing" สองคำนี้คนที่เคยทำเครือข่ายมาก่อนคงพออาจจะได

เลือกเป็นคนที่...อ่อนน้อมถ่อมตน

รูปภาพ
    คุณเคยพบคนที่ เย่อหยิ่ง จองหอง โอ้อวด อวดรู้ไปซะหมดทุกเรื่อง บ้างหรือเปล่า ?  ผู้คนที่คุณได้พบเจอในแต่ละวัน มีบ้างหรือเปล่าี่ที่เป็นคนเช่นนี้ ?  หรือในบางครั้งเราเองก็มีอุปนิสัยเช่นนี้ ? คำถามสุดท้าย...คุณรู้สึกอย่างไรกับคนที่มีอุปนิสัยเย่อหยิ่งเช่นนี้ ? เราคงจะรู้สึกหมั่นไส้และอยากจะเหยียบคนกลุ่มนี้ให้จมลงดินไปเลยใช่ไหมล่ะครับ...แต่ช้าก่อน !! จริงๆแล้วผมอยากจะให้คุณอภัยให้เขามากกว่านะ เพราะคนที่มีอุปนิสัยแบบนี้ ล้วนเป็นคนที่น่าสงสาร ...ด้วยอุปนิสัยเช่นนี้ จะทำให้คนรอบข้างมีแต่คนคอยสมน้ำหน้าเวลาคนพวกนี้ผิดพลาดหรือล้มลง...ซึ่งแน่นอนว่าในโลกนี้ไม่เคยไม่มีใครทำผิดพลาด ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงน่าสงสารอย่างที่สุด ผมยอมรับว่าผมเคยมีอุปนิสัยเช่นนี้ในบางครั้งที่ขาดสติ โมโห ลืมตัว และมันสร้างความเจ็บปวดใจให้ผมทุกครั้งได้มีท่าทีหยิ่งยะโส...นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องเตือนตัวเองเสมอ ทบทวนการกระทำทุกครั้งที่ผมถูกความโกรธเข้าครอบงำ ผมเคยเป็นคนนึงที่เคยมีความคิดว่า ทุกการพูดคุย เราจะต้องชนะ เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเรานั้นเก่งกว่า มีความรู้มากกว่า แท้จริงนั้นเป็นการกระทำของคนโง่ที่อวดฉลาดเท่านั้

เลือกเป็นคนที่...มีเป้าหมายในชีวิต

รูปภาพ
"เป้าหมาย คือจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้าทุกอย่างในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ" "เป้าหมาย คือความฝันที่ต้องมีการกำหนดเส้นตาย" "เป้าหมาย นำไปสู่ความหมาย ความหมายนำไปสู่ความสุขใจ" ไม่ว่าคำจัดกัดความของคำว่า "เป้าหมาย" คืออะไร สิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือ เราควรจะถามตัวเองว่า เป้าหมายในชีิวตของเราคืออะไร ? ผมเคยถามคำถามนี้กับผู้คนตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา เชื่อไหมว่า ส่วนใหญ่กว่า 90% จะคิดหนัก และตอบไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ระบบการศึกษาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ไม่ได้สอนในเรื่องของ "การตั้งเป้าหมาย" อย่างจริงจัง แม้กระทั่งการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนในครอบครัวของเราก็มีน้อยครอบครัวนักที่จะสอนกันเกี่ยวกับเรื่องนี้...ทั้งๆที่ "เป้าหมาย" คือสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาชีวิตของเราอย่างแท้จริง ด้วยชีวิตที่เร่งรีบ แข่งขันในปัจจุบันทำให้ทุกวันนี้ผู้คนลืมที่จะคิดว่าชีวิตยังมีด้านอื่นให้ศึกษา เรียนรู้อีกมากมายไม่รู้จบ ...ในขณะที่เรากำลังวิ่งอยู่ในวังวนของสิ่งที่ซ้ำซาก จำเจ และทุกคนต่างก็รู้ดีว่าในระยะยาวแล้ว งานที่ทำอยู่อา

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้สร้างอาณาจักร Facebook

รูปภาพ
จนถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเฟซบุ๊ค ความร้อนแรงของเฟซบุ๊คทำให้มีผู้ใช้เกินกว่า 550 ล้านรายชื่อ !! แล้วในขณะนี้ และจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่ร่ำรวยที่สุดของนิตยสารฟอร์บส์ ครั้งที่ผ่านมา  หากนับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นั้นมีทรัพย์สินเป็นอันดับ 1 ซึ่งมีทรัพย์สินรวมทั้งหมด 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหนุ่มคนนี้มีอายุเพียงแค่ 24 ปี มาร์ค เกิดวันที่ 14 พฤษภาคม 1984 เขาเรียน คอมพิวเตอร์ โปรแกรม และผู้ประกอบการ ที่ฮาวาร์ด แต่ไม่ทันเรียนจบ ก็ลาออกมาเปิดเวบไซต์ที่ชื่อว่า www.facebook.com เป็นชุมชนออนไลน์ หรือ  Social-Networking Site เป็นการเดินตามรอย บิลล์ เกตส์ ที่ลาออกจากฮาร์วาร์ดมาเปิดไมโครซอฟต์  เพียง 3 ปี มาร์ค สามารถทำให้เวบไซต์ของ เป็นที่นิยมติดอันดับ 6 อเมริกา มีคนสมัครเป็นสมาชิก 19 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ติดอันดับ 500 ของฟอร์บ และเป็นเวบที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเว็บที่ผู้ใช้ Upload รูปขึ้นไปเก็บไว้มากเป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ...โดยมีจำนวนรูปที่ถูก Upload มากถึง 6 ล้านรูปต่อวัน และกำลังเริ่มจะเป็นคู่แข่งกับ

Oil pulling ธรรมชาติบำบัดที่น่าทดลอง

Oil Pulling คือ การใช้น้ำมันช่วยดูดสารพิษในร่างกาย ซึ่งช่วยรักษาโรคหรืออาการบางอย่างได้ เป็นวิธีธรรมชาติที่สามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน แต่ได้ผลมากจริงๆ เนื่องจากในปากของคนเรามีแบคทีเรียที่อาศัยเศษอาหารที่เรารับประทานเข้าไปอยู่ หากในปาก เหงือก หรือเนื้อเยื่อในช่องปากของเรามีแผล จะทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลายชนิด ตั้งแต่โรคไขข้ออักเสบไปจนถึงโรคหัวใจ  โดยปกติเมื่อเราบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า สิ่งที่ถูกบ้วนออกมาจะเป็นเศษอาหารและสิ่งที่ไม่ใช่น้ำมันหรือไขมันของ แบคทีเรีย เพราะโดยปกติน้ำกับน้ำมันจะแยกกันอยู่ ซึ่งต่างจากการนำน้ำมันมารวมกันจะดึงดูดซึ่งกันและกัน นั่นคือเมื่อเราทำออยพูลลิ่ง (Oil Pulling) เนื้อเยื่อที่เป็นน้ำมันหรือไขมันของแบคทีเรียจะถูกน้ำมันดูดออกจากที่ซ่อน และติดแน่นอยูในส่วนผสมของน้ำมัน เมื่อแบคทีเรียรวมทั้งพิษร้ายที่เกิดจากแบคทีเรียถูกดูดออกไป จึงทำให้ร่างกายได้ทำการฟื้นฟู การอักเสบทั้งหลายกลับเป็นปกติ รวมถึงเนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม จนกลับมามีีสุขภาพที่ดีได้ วิธีการของ Oil Pulling: หลังจากล้างหน้าแปรงฟันในตอน

วิธีการใช้ ระบบการตลาดแบบดึงดูด (Attraction Marketing) เพื่อดึงดูดผู้คนแทนการไล่ล่า

รูปภาพ
คำว่า "ระบบการตลาดแบบดึงดูด (Attraction Marketing)" นั้นหมายถึง วิธีการทำการตลาดยุคใหม่ ที่ปฏิวัติการทำงานแบบเดิมๆในโลกของธุรกิจเครือข่าย ...เมื่อก่อน วิธีการทำงานที่เราใช้ในธุรกิจคือ การลิสต์รายชื่อคนที่รู้จัก โทรติดตามเพื่อเชิญชวนให้เข้าอบรมธุรกิจ โทรให้ได้มากที่สุดเพื่อเล่นกับสถิติ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้ผู้คนกลัว สร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น หากยังเชิญชวนคนให้เข้าอบรมไม่ได้ ทีมงานก็พยายามกระตุ้นให้ขายของเพื่อรักษายอดธุรกิจ ผมรู้สึกแย่ทุกครั้งที่มีคนซื้อของด้วยความเกรงใจ สุดท้ายแล้วผมก็ล้มเหลวด้วยวิธีการทำงานยุคเก่านั้น ซึ่งมันทำให้ผมเหนื่อยใจตลอดมา ในช่วงที่ผมล้มเหลวในธุรกิจเครือข่าย ผมจึงมุ่งหน้าหาธุรกิจอื่นๆทำ ...ผมเลือกธุรกิจที่มี "ระบบการทำงาน" ในตัวของมันเอง ด้วยความหวังว่าจะสร้างอิสรภาพให้ผมได้ ผมจึงเริ่มทำทั้งตู้น้ำ ตู้เติมเงินมือถือ ตู้น้ำมัน ไปจนถึงตู้เติมลม .. แต่ถึงจะเป็นธุรกิจเล็กๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายไปซะหมด ผมได้เงินจากตู้ทุกตู้เป็นรายได้รวมที่ต่ำกว่าที่ผมคิดไว้ก่อนทำธุรกิจถึง 3 เท่าตัว !! ในขณะที่เสียงในหัวใจของผมยังคงดังก้องคิดถึงธุรกิจเค

รวมทุกเรื่องเพื่อทำให้คุณสุขภาพดี

รูปภาพ
ด้วยความที่ผมเรียนมาทางสายการแพทย์แผนปัจจุบัน ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นในเรื่องยาอย่างเปี่ยมล้น ...แต่ผมเองกลับไม่ค่อยได้กินยาแผนปัจจุบัน และจะเลือกใช้สมุนไพรมากกว่าเมื่อผมป่วยเป็นโรคเล็กๆน้อย...ยาทำให้เราหายจากอาการหรือโรคที่เป็นอย่างรวดเร็ว แต่ในระยะยาวกลับมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทัศนคติความเชื่อด้านอาหารเสริมที่ผมปิดกั้นมาตลอด เพราะเคยได้ยินแพทย์หลายๆท่านบอกว่า "กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เพียงพอแล้ว" "อาหารเสริมน่ะหรือ สิ้นเปลืองเปล่าๆ !!" ธุรกิจเครือข่าย  เปลี่ยนทัศนคติของผมในหลายๆด้าน รวมถึงด้านสุขภาพด้วย...ทำให้ผมเข้าสู่โลกแห่งการอ่าน เรียนรู้ ศึกษา ลงมือทำอย่างลองผิดลองถูก ... เนื่องจากสินค้าในธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่เป็นอาหารเสริม ผมจึงได้อบรมอยู่เป็นประจำ ช่วงแรกที่อบรมผมยังคิดลบ ผมคิดว่าเป็นธรรมดาที่เค้าจะบอกว่าอาหารเสริมดีแบบนั้นแบบนี้ ก็แน่ล่ะ !! ก็เค้าทำธุรกิจนี่ !! เค้าก็ต้องเชียร์เป็นธรรมดา ผมมุ่งศึกษาการใช้สารอาหารเสริมบำบัดโรค การใช้อาหารเสริมเพื่อทำให้มีสุขภาพดี...กว่า 4 ปีที่ผมอ่านหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค นิตยสาร ที่มีฐานข้อมูลอ้างอิง พร้อมทั้งค้